เมื่อวันที่ 16 เดือน ธันวาคม พ.ศ. 2563 เวลาประมาณ 13.30 นาฬิกา ที่ผ่านมา ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบช.ก.,พล.ต.ต.ภูมินทร์ พุ่มพันธุ์ม่วง ผบก.ปฏิบัติการพิเศษ
ผู้ควบคุมการปฏิบัติ พ.ต.อ.สุรพันธ์ มั่นคงดี รอง ผบก.ปฏิบัติการพิเศษ, พ.ต.อ.ศิววงศ์ ดำรงสัจจ์ศิริ ผกก.๓ บก.ปฏิบัติการพิเศษ,พ.ต.ท.ธนพันธ์ จันทร์เทพ รอง ผกก.๓ บก.ปฏิบัติการพิเศษ,พ.ต.ท.ชนะภัย วิเชียรเกื้อ รอง ผกก.๓ บก.ปฏิบัติการพิเศษ, พ.ต.ต.ธรนัส มูลมานัส สว.กก.๓ บก.ปฏิบัติการพิเศษ
สั่งการให้ ร.ต.อ.สมรัก สิงห์ดา รอง สว.กก.๓ บก.ปฏิบัติการพิเศษ,ส.ต.อ.สยาม สุพรมอินทร์,ส.ต.อ.สันติ อินสุวรรณ์,ส.ต.ท.เกริกเกียรติ อินทร์เสนา,ส.ต.ต.วรเมธ พึ่งสำโรง,ส.ต.ต.กฤษฎา ดีพรม ผบ.หมู่ กก.๓ บก.ปฏิบัติการพิเศษ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม จับกุมตัว
ผู้ต้องหา นายณัฐภัทร (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 16 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับ : ศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดสุรินทร์ ที่ จ.12/2563 ลงวันที่ 24 พฤศจิกายน พุทธศักราช 2563
ความผิดฐาน : “ร่วมกันบุกรุกเคหสถานโดมีอาวุธและร่วมกันกระทำผิดด้วยกันตั้งแต่สองคนขึ้นไป ร่วมกันทำร้ายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ได้รับอันตรายสาหัสโดยไตร่ตรองไว้ก่อน และร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ร่วมกันพกอาวุธไปในเมืองหมู่บ้านทางสาธารณะ โดยเปิดเผยหรือโดยไม่มีเหตุสมควร”
ก่อนหน้านี้ ผู้ต้องหากับพวกรวม 4 คน ได้ร่วมกับใช้อาวุธมีดไล่ฟัน จนผู้เสียหายได้รับบาดเจ็บสาหัส จากนั้นได้ขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีภ ายหลังที่พนักงานสอบสวนได้ออกหมายจับในวันที่ 24 พฤศจิกายน 2563 เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รีบสืบสวนติดตามหาตัว จนวันนี้ (16 ธ.ค. 63) เวลาประมาณ 13.30 นาฬิกา เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้รับแจ้งจากสายลับว่า ขณะนี้ นายณัฐภัทร์ (สงวนนามสกุล) ได้เดินทางกลับมาภูมิลำเนา จึงเดินทางไปตรวจสอบพบ ผู้ต้องหา เดินอยู่กลางถนนสาธารณะของหมู่บ้าน บ้านโคกเพชร ม.6 ต.ตันตรวจระมวล อ.ปราสาท จ.สุรินทร์ ก่อนเข้าจับกุมพร้อมแสดงหมายจับ ในความผิดฐาน “ร่วมกันบุกรุกเคหสถานโดมีอาวุธและร่วมกันกระทำผิดด้วยกันตั้งแต่สองคนขึ้นไป ร่วมกันทำร้ายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ได้รับอันตรายสาหัสโดยไตร่ตรองไว้ก่อน และร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ร่วมกันพกอาวุธไปในเมืองหมู่บ้านทางสาธารณะ โดยเปิดเผยหรือโดยไม่มีเหตุสมควร” ให้ดู ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินการต่อไป
“สยบทุกข์ภัย รับใช้ปวงประชา”
“สยบทุกข์ภัย รับใช้ปวงประชา”