ตำรวจคอมมานโดจับหนุ่มใหญ่เมาสุราสติแตก เอามีดจี้ลูกสาว อายุ 16 ปี ไปข่มขืนกลัวความผิดหนีคดีนานกว่า 11 ปี

ภายใต้การอำนวยการจับกุมโดย พล.ต.ท.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบช.ก. ,พล.ต.ต.ภูมินทร์ พุ่มพันธุ์ม่วง ผบก.ปพ. พ.ต.อ.จีระเศษฐ์ ดาวเงินตระกูล รอง ผบก.ปพ. , พ.ต.อ.เรืองรัตน์ หงส์ทิพรัตน์ ผกก.สายตรวจ บก.ปพ. , พ.ต.ท.คมเดช นธกิจไพศาล , พ.ต.ท.ชิงชัย ภูสำเภา รอง ผกก.สายตรวจฯ , พ.ต.ท.ดนัย ชุ่มอภัย สว.สายตรวจฯ

ชุดจับกุม ด.ต.ทิวานนท์ เกิดประโคน,    ด.ต.สุเทพ ชิดมณี, ส.ต.อ.ธนินพงษ์  สาสังข์,  ส.ต.อ.ณัฐวุฒิ  บรรมณี, ส.ต.อ.พิชญะ ตัญยุชน, ส.ต.ต.อนิรุทธิ์ บุษภาค, ส.ต.ต.ปิยะศักดิ์ สารบรรณ ผบ.หมู่ กก.สายตรวจ บก.ปพ.

จับกุมตัว นายสมควร  อุดทามูล อายุ 52 ปี ที่อยู่ 89/2  หมู่ที่ 2 ต.บางผึ้ง  อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา  กระทำความผิดฐาน “ข่มขืนกระทำชำเราผู้สืบสันดานของตน โดยขู่เข็ญด้วยประการใดๆ โดยใช้กำลังประทุษร้าย ” หมายจับศาลจังหวัดเชียงราย ที่ 109/2562 ลง 20 เม.ย.2552

กล่าวคือ  เมื่อ 4 เม.ย.2552 เวลากลางคืน นายสมควร  อุดทามูล ผู้ต้องหา ซึ่งมีอาชีพรับจ้างทั่วไป ซึ่งช่วงเย็นหลังเลิกงานได้ดื่มสุราอยู่ที่บริเวณบ้าน ในพื้นที่ อ.เวียงป่าเป้า จว.เชียงราย จนเมาขาดสติอาละวาด ซึ่งภรรยา ญาติพี่น้องได้เข้ามาห้ามปรามแต่นายสมควรฯ ไม่ฟัง ยิ่งโมโหขาดสติ จึงเข้าไปคว้าเอามีดออกมาไล่ฟันคนในครอบครัว ทุกคนในบ้านเห็นท่าไม่ค่อยดีจึงวิ่งหนีออกจากบ้านไปคนละทิศละทาง หลบซ่อนตัวบริเวณป่าละเมาะแถวบ้าน แต่นายสมควรฯยังวิ่งไล่ติดตามออกมา และพบลูกสาวแท้ๆของตนเอง ซึ่งหลบซ่อนอยู่ในป่าละเมาะข้างบ้านจึงใช้มีดจี้คอและพาตัวไปข่มขืนกระทำชำเราบริเวณป่าละเมาะหลังบ้านที่เกิดเหตุ

ซึ่งหลังเกิดเหตุเมื่อนายสมควรฯ เริ่มมีสติและกลัวว่าจะมีคนไปแจ้งความและจะถูกดำเนินคดี จึงได้หลบหนีออกจากบ้าน ลงมาทำงานบนเรือประมงในพื้นที่ จว.สมุทรสาคร ซึ่งออกเรือไปทำประมงแถวประเทศอินโดนิเซีย 5-6 ปี และคิดว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจคงไม่ติดตามจับกุมตัวแล้ว จึงกลับเข้ามาในประเทศ และหลบไปทำงานรับจ้างเลี้ยงปูในพื้นที่ จว.จันทบุรี เพื่อรอให้คดีหมดอายุความ

เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวน กองกำกับการสายตรวจ คอมมานโด กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ได้สืบสวนติดามตัวจนทราบว่า นายสมควรฯ ซึ่งเป็นบุคคลที่เป็นภัยภัยต่อสังคม  ได้หลบหนีการจับกุมมาโดยตลอดและหลบซ่อนทำงานอยู่ในพื้นที่ จว.จันทบุรี จึงออกอบุบายซ้อนแผนให้นายสมควรฯ ออกมาจากพี่พักที่หลบซ่อน และจับกุมตัวได้และตัวนำส่ง สภ.เวียงป่าเป้า ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

“สยบทุกข์ภัย รับใช้ปวงประชา”