ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบช ก. ,พล.ต.ต.ภูมินทร์ พุ่มพันธุ์ม่วง ผบก.ปฏิบัติการพิเศษ ,พ.ต.อ.ธีรชาติ ธีรชาติธำรง รอง ผบก.ปฏิบัติการพิเศษ,พ.ต.อ ณรงค์เวทย์ โอนสูงเนิน รอง ผบก.ปฏิบัติการพิเศษ ,พ.ต.อ.วชิรา ยาวไทยสงค์ ผกก.ต่อต้านการก่อการร้าย.บก.ปฏิบัติการพิเศษ, พ.ต.ทเจษฎา โสมนัส ,พ.ต.ท.วิศิษฏ์ ศรียาภัย รอง ผกก.ต่อต้านการก่อการร้าย.บก.ปฏิบัติการพิเศษ สั่งการให้ ร.ต.อ.กิติพงศ์ สุนทรวิภาต พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ชุดจับกุม กก.ต่อต้านการก่อการร้าย.บก.ปฎิบัติการพิเศษ
ทำการจับกุมตัว นายสุรเชษฐ์ หรือโจ๊ก เนื่องกันยา อายุ 31 ปี หมู่ที่ 1 ตำบลขามเรียง อำเภอกัทรวิชัย จังหวัดมหาสารคาม ผู้ต้องหาตามหมายจับ “ว่ากระทำความผิดฐาน ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย โดยผิดกฎหมาย,ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 5 (กัญชา) ไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย”
ก่อนจับกุมชุดสืบสวนได้ทำการสืบสวนจากเพื่อนของผู้ต้องหาที่จำคุกอยู่ในเรือนจำอยู่ก่อนแล้วว่า ผู้ต้องหาหลบหนีมาใช่ชีวิตอยู่กับครอบครัวย่านสมุทรปราการ ชุดสืบสวนของคอมมานโดจึงได้ขยายผลจาก เครือข่ายค้ายาเสพติดดังกล่าวและได้นำกำลังลงพื้นที่ปูพรมค้นหาจนเจอตัวในที่สุด
และเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนจึงได้แสดงหมายจับดังกล่าวให้ พร้อมกับแสดงตัวเข้าจับกุม เมื่อผู้ต้องหาเห็นเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนของตำรวจคอมมานโดผู้ต้องหาได้วิ่งหนี และขัดขืน เนื่องจากทราบว่าตนเองมีหมายจับและเป็นพ่อค้ายาเสพติดรายใหญ่ในจังหวัดมหาสารคาม ชุดสืบสวนของตำรวจคอมมานโด จึงได้วิ่งไล่ตามผู้ต้องหาและควบคุมไว้ได้แต่ผู้ต้องหาได้ทำการขัดขืนจึงจำเป็นต้องใช้เครื่องพันธนาการในที่สุดและจับดำเนินคดีตามกฎหมาย
จากการสอบถามข้อเท็จจริงผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ได้นำยาบ้าจำนวน 4 มัด มาจากฝั่งลาวทั้งหมด พร้อมพวกจำนวน 3 คน ซึ่งมีชื่อว่า นายคิว และนายโปเต้ โดยนายคิวนั้นถูกจับอยู่ก่อนหน้าแล้ว และยังจำคุกอยู่ในเรือนจำ โดยทั้ง 3 คนนำยาบ้ามาจากฝั่งลาว และนำยาบ้ามาพักไว้ที่รีสอร์ทของนายโปเต้เพื่อจำหน่ายให้กับลูกค้า จากนั้นได้นำยาบ้าพักไว้ที่รีสอร์ท จนกว่าลูกค้าจะมารับโดยให้นายคิวเป็นคนเฝ้าที่รีสอร์ทของนายโปเต้ ซึ่งในเวลาต่อมานายคิวได้ถูกควบคุมตัวเข้าเรือนจำ ซึ่งต่อมาเจ้าหน้าที่สุดสืบสวนของตำรวจคอมมานโดได้ทำการขยายผลจากนายคิวที่อยู่ในเรือนจำจนทำให้จับกุมผู้ต้องหาได้ในที่สุด สอบถามให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา
จึงได้นำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.เขวาใหญ่ จว.มหาสารคาม เพื่อดำเนินคดีต่อไป
“สยบทุกข์ภัย รับใช้ปวงประชา”
