ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบช.ก. , พล.ต.ต.ภูมินทร์ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้บังคับการปฏิบัติการพิเศษ , พ.ต.อ.ณรงค์เวทย์ โอนสูงเนิน รอง ผบก.ปพ , พ.ต.อ.ศิววงศ์ ดำรงสัจจ์ศิริ ผกก.๓ บก.ปพ. , พ.ต.ท.ชนะภัย วิเชียรเกื้อ , พ.ต.ท.ปริญญา เอิบอาบ รอง ผกก.๓ บก.ปพ ,
สั่งการให้ ว่าที่ พ.ต.ต.ณัฏฐ์พัฒน์ ทองยอดแก้ว สว.กก.๓ บก.ปพ , ร.ต.ท.นริศ มานพ รอง สว.กก.๓ บก.ปพ. ,ส.ต.ต.ถาวร จันทร์เพชร , ส.ต.ต.วัชรินทร์ เอกตาแสง , ส.ต.ต.กิติพงษ์ ศรีเมือง , ส.ต.ต.ภูริเดช มณีวรรณ , ส.ต.ต.ภูริทัต สิงหกุลศิริ ผบ.หมู่ กก.๓ บก.ปพ. จับกุมตัว
ผู้ต้องหา : นายชาตรี มณีศรี อายุ 34 ปี
ตามหมายจับของ : ศาลจังหวัดบุรีรัมย์ที่ จ.72/๒๕๖๔ ลงวันที่ 2 เมษายน ๒๕๖๔
ความผิดฐาน : “ กระทำชำเราเด็กอายุไม่เกินสิบห้าปีซึ่งมิใช่ภริยาของตนโดยเด็กนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตามและกระทำอนาจารแก่เด็กอายุไม่เกินสิบห้าปี โดยเด็กนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม โดยขู่เข็ญด้วยประการใดๆ โดยใช้กำลังประทุษร้าย โดยผู้อื่นนั้นอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้”
พฤติการณ์ในคดี : เหตุเกิดประมาณปี 2563 ณ บ้านเลขที่ 7 หมู่ที่ 15 ตำบลร่อนทอง อำเภอสตึก จังหวัดบุรีรัมย์ โดยผู้ต้องหาได้อาศัยช่วงวันเวลากลางวัน จังหวะที่ไม่มีคนอยู่ในบ้าน กระทำชำเราและกระทำอนาจารแก่เด็กหญิง แต่ยังไม่ทันสำเร็จความใคร่ ก็มีผู้มาเห็นการกระทำของผู้ต้องหาเสียก่อน
ทำให้ผู้ต้องหาต้องหลบหนีมาทำงานที่จังหวัดสมุทรปราการ ก่อนถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน กองกำกับการ 3 กองบังคับการปฏิบัติการพิเศษติดตามจับกุมตัวได้
จากการสอบถามผู้ต้องหาให้การยอมรับสารภาพว่าได้ข่มขืนกระทำชำเราและกระทำอนาจารเด็กหญิงจริง ซึ่งเด็กหญิงคนนี้ก็เป็น “หลานสาวของตัวเอง” ด้วย
“สยบทุกข์ภัย รับใช้ปวงประชา”