จับหนุ่มใจถึงพาเพื่อนไปลวนลามสาว ก่อนหนีคดีเกือบ 15 ปี สุดท้ายถูกจับก่อนหมดอายุความไม่กี่เดือน

ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบช.ก. พล.ต.ต.ภูมินทร์ พุ่มพันธุ์ม่วง ผบก.ปฏิบัติการพิเศษ พ.ต.อ.จีระเศรษฐ์ ดาวเงินตระกูล รอง ผบก.ปฏิบัติการพิเศษ , พ.ต.อ.เรืองรัตน์ หงษ์ทิพรัตน์ ผกก.สายตรวจ บก.ปพ. , พ.ต.ท.คมเดช นธกิจไพศาล , พ.ต.ท.ชิงชัย ภูสำเภา รอง ผกก.สายตรวจ บก.ปพ.

สั่งการให้ พ.ต.ท.ดนัย ชุ่มอภัย สว.กก.สายตรวจฯ ร.ต.อ.สหัส ฉิมคล้าย รอง สว.กก.สายตรวจฯ , ด.ต.ไพรินทร์ รักษ์แก้ว, ด.ต.ณชพล แสงสุวรรณ, ด.ต.ผดุงศักดิ์ ช่วยไกร, ส.ต.อ.พงศกร แสนปาน ผบ.หมู่ กก.สายตรวจ บก.ปพ. จับกุมตัว

ผู้ต้องหา : นายอภิวัฒน์ หรือโจ้ อุปแสน อายุ 40 ปี

ตามหมายจับศาล : ศาลจังหวัดอุดรธานี ที่ จ.664/2563 ลง 10 พ.ย.2549

ความผิดฐาน : “ร่วมกันบุกรุกในเคหสถานในเวลากลางคืนและกระทำอนาจารบุคคลอายุกว่า 15 ปี”

พฤติการณ์ในคดี : เหตุเกิดเมื่อประมาณ เดือน พ.ย. 2549 ขณะที่ผู้ต้องหายังเป็นวัยรุ่นอยู่ โดยในคืนวันเกิดเหตุนั้น ได้มีเพื่อนรุ่นน้องในหมู่บ้าน 2 คนมาชักชวนให้พาไปหาสาวอีกหมู่บ้านซึ่งอยู่ห่างไปประมาน 1 กิโลเมตร

ด้วยความรักเพื่อน ผู้ต้องหาจึงพานั่งซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ไปด้วยกัน เมื่อไปถึงรุ่นน้องที่มาด้วยก็ลงจากรถ แล้วเดินขึ้นไปหาผู้เสียหายบนบ้าน จากนั้นก็ก่อเหตุลวนลามจนผู้เสียหายตกใจแล้วกรีดร้อง เพื่อนของผู้ต้องหาก็รีบวิ่งลงมาจากบ้าน แล้วขึ้นรถจักรยานยนต์ โดยมีผู้ต้องหาเป็นคนพากันหลบหนีไปในคืนดังกล่าว

ต่อมาหลังเกิดเหตุ นายอภิวัฒน์ฯ ก็เดินทางออกนอกพื้นที่และคิดว่าไม่น่าจะเป็นคดีความ เพราะเห็นว่าไม่ใช่เรื่องร้ายแรงอะไร ประกอบกับเรื่องราวนี้ก็ผ่านมานานเกือบ 15 ปีแล้ว ซึ่งอีกเพียงอีกไม่กี่เดือนคดีก็จะหมดอายุความ ทำให้ผู้ต้องหาไม่ทันระวังตัว จนถูกตำรวจคอมมานโดจับกุมได้ในที่สุด จึงนำตัวส่ง สภ.เมืองอุดรธานี ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

สอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าได้ร่วมกับเพื่อนทั้ง 3 คนไปก่อเหตุจริง แต่ตนนั้นไม่ได้เป็นคนก่อเหตุ แต่ถึงอย่างไรก็ตามในทางกฎหมายก็ยังมีความผิดอยู่ดี