ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบช.ก. พล.ต.ต.ภูมินทร์ พุ่มพันธุ์ม่วง ผบก.ปฏิบัติการพิเศษ พ.ต.อ.บุญฤทธิ์ ศรีวิจิตร รอง ผบก.ปฏิบัติการพิเศษ พ.ต.อ.สุรชัจ สีมุเทศ ผกก.4 บก.ปฏิบัติการพิเศษ พ.ต.ท.วัฒนพล กาญจนเสถียร พ.ต.ท.ธนทร รุ่งจิรพงษ์ รอง ผกก. 4 บก.ปฏิบัติการพิเศษ
สั่งการให้ พ.ต.ต.ไพบูลย์ พิมพ์กำเนิด สว.กก.4 บก.ปฏิบัติการพิเศษ ส.ต.อ.วัฒนา ปฐมพงษ์ ,ส.ต.อ.นนทนันท์ แนบเนียร ผบ.หมู่ กก.4 บก.ปฏิบัติการพิเศษ จับกุมตัว
ผู้ต้องหา : นายยุทธพันธ์ คำประสงค์ภูธร
ตามหมายจับศาล : ศาลจังหวัดขอนแก่น ที่ 143/2555 ลงวันที่ 19 มีนาคม 2555
ความผิดฐาน : ” ฉ้อโกง ปลอมเอกสารสิทธิและใช้เอกสารสิทธิปลอม “
พฤติการณ์ในคดี : เนื่องจากก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้รับการร้องเรียนจากประชาชนหลายรายว่า มีมิจฉาชีพปลอมเป็นเจ้าหน้าที่ไฟแนนซ์ของสถาบันการเงินต่างๆ เข้าไปทำการทวงหนี้ หากเหยื่อหลงเชื่อก็จะทำการยึดรถ จากนั้นก็จะนำรถไปขายโดยไม่ได้นำรถส่งคืนไฟแนนซ์แต่อย่างใด นอกจากนี้ บางครั้งยังมีการอ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อให้ผู้เสียหายหลงเชื่อ และมอบรถให้ หลังได้รับแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจคอมมานโด จึงทำการสืบสวนจนทราบว่า กลุ่มคนร้ายเตรียมจะก่อเหตุทำการยึดรถ โดยอ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่ไฟแนนซ์ของ ราชธานี ลิซซิ่ง จำกัด (มหาชน)
ต่อมาเมื่อเวลา 17.00 น.วันที่ 30 มี.ค. 64 เจ้าหน้าที่ตำรวจคอมมานโดพบนายเสกสรรณ์ เข้ามาแสดงตนอ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่บริษัทไฟแนนซ์ของ ราชธานี ลิสซิ่ง เมื่อเจ้าหน้าที่ขอดูเอกสาร ผู้ต้องหาได้นำเอกสารซึ่งมีตราของบริษัทมาแสดงให้เห็นว่า ตัวเองเป็นตัวแทนและได้รับมอบอำนาจจากบริษัท แต่เมื่อให้เจ้าหน้าที่ตัวจริงของบริษัท ราชธานี ลิสซิ่ง มาดู ก็ยืนยันว่านายเสกสรรณ์ไม่ใช่ตัวแทนของบริษัท และเอกสารที่นายเสกสรรณ์นำมาแสดงทั้งหมดนั้นก็เป็นของปลอม เจ้าหน้าที่ตำรวจคอมมานโด จึงแสดงตัวเข้าจับกุม พร้อมตรวจยึดหนังสือมอบอำนาจและเอกสารปลอมที่ทำขึ้นทั้งฉบับ รวมรายชื่อลูกค้าทั้งสิ้น 122 ฉบับ
จากการสอบสวน นายเสกสรรณ์ ให้การรับสารภาพว่า ตนเพิ่งทำได้ 2 ครั้ง ก่อนรับงานจะมีคนนำข้อมูลลูกค้ามาให้ตนอีกที หลังจากรับงานมาตนก็จะทำหน้าที่ตามลูกค้าและเจรจาจนได้รถมา ตนก็จะส่งรถให้คนที่จ้างต่ออีกที แต่มาทราบภายหลังว่ารถไม่ได้ถูกส่งไปที่บริษัทไฟแนนซ์ โดยตนได้ค่าจ้างครั้งละ 1 – 2 หมื่นบาท สาเหตุที่ทำเนื่องจากรายจ่ายไม่พอใช้ ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจคอมมานโดได้แจ้งข้อหา ฉ้อโกง ปลอมเอกสารสิทธิและใช้เอกสารสิทธิปลอม ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีต่อไป
“สยบทุกข์ภัย รับใช้ปวงประชา”