ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบช.ก. ,พล.ต.ต.ภูมินทร์ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้บังคับการปฏิบัติการพิเศษ , พ.ต.อ.จีระเศรษฐ์ ดาวเงินตระกูล รอง ผบก.ปพ. , พ.ต.อ.ศิววงศ์ ดำรงสัจจ์ศิริ ผกก.3 บก.ปฏิบัติพิเศษ, พ.ต.ท.ชนะภัย วิเชียรเกื้อ, พ.ต.ท.ปริญญา เอิบอาบ รอง ผกก.3 บก.ปฏิบัติการพิเศษ , พ.ต.ท.สุริยนต์ ราชพันแสน, พ.ต.ต.ธรนัส มูลมานัส สว.กก.3 บก.ปฏิบัติการพิเศษ
สั่งการให้ พ.ต.ต.ณัฏฐ์พัฒน์ ทองยอดแก้ว สว.กก.3 บก.ปพ. , ร.ต.ท.นริศ มานพ,ส.ต.ต.ถาวร จันทร์เพชร , ส.ต.ต.วัชรินทร์ เอกตาแสง ,ส.ต.ต.ภูริเดช มณีวรรณ , ส.ต.ต.ภูริทัต สิงหกุลศิริ , ส.ต.ต.กิตติพงษ์ ศรีเมือง , ส.ต.ต.ธีรเจต หม้อแก้ว ผบ.หมู่ กก.3 บก.ปพ. จับกุมตัว
ผู้ต้องหา : นายอภิเชษฐ์ หรือ “เหน่ง” ประนัสสังค์ อายุ 26 ปี
ตามหมายจับศาล : ศาลจังหวัดพัทยา ที่ จ.243/2560 ลงวันที่ 2 มิถุนายน พ.ศ. 2560
ความผิดฐาน : “ลักทรัพย์ที่เป็นของนายจ้างในเวลากลางคืน และ ลักทรัพย์ของนายจ้าง”
และอีก 1 หมายจับ คือ หมายจับศาลจังหวัดสงขลา ที่ จ.59/2564 ลงวันที่ 20 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2564 ในความผิดฐาน “ลักทรัพย์ที่เป็นของนายจ้างในเวลากลางคืน และ ลักทรัพย์ของนายจ้าง”
พฤติการณ์ในคดี : คดีแรก ผู้ต้องหาได้สมัครงานที่ร้านขายโทรศัพท์ของผู้เสียหาย ที่ จ.ชลบุรี โดยผู้ต้องหาเป็นคนที่มีทักษะในการพูด มีความสามารถในการขาย จนสร้างความไว้วางใจให้แก่ผู้เสียหาย จนมอบให้ทำหน้าที่สั่งของและดูแลสินค้าภายในร้านของผู้เสียหายทั้งหมด
ผู้ต้องหาได้อาศัยความไว้เนื้อเชื่อใจนี้ ทำการแอบทยอยขโมยโทรศัพท์ในร้านของผู้เสียหายไปขายเอง กว่าผู้เสียหายจะรู้ตัวก็เสียหายไปหลายแสนแล้ว ซ้ำร้ายไปกว่านั้น ตัวผู้ก่อเหตุก็ได้หลบหนีไปแล้วทิ้งไว้เพียงความเจ็บช้ำน้ำใจ
คดีที่ 2 ผู้ต้องหาได้ไปก่อเหตุลักษณะเดียวกันนี้อีกที่ จ.สงขลา โดยทำงานเป็นผู้จัดการร้านกาแฟ และได้ใช้แผนประทุษกรรมรูปแบบเดิม ทั้งสองที่มีมูลค่าความเสียหายรวมกันประมาณ 1.2 ล้านบาท
สุดท้ายไม่รอดถูกตำรวจคอมมานโด กก.3 บก.ปพ. จับกุมตัวไว้ได้ในที่สุด พร้อมกันนี้รับสารภาพสิ้นทุกข้อกล่าวหา
“สยบทุกข์ภัย รับใช้ปวงประชา”