เมื่อวันที่ 29 ธันวาคม ๒๕๖๓ เวลาประมาณ 14.50 น. ที่ผ่านมา ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบช.ก. พล.ต.ต.ภูมินทร์ พุ่มพันธุ์ม่วง ผบก.ปฏิบัติการพิเศษ , พ.ต.อ.จิระเศรษฐ์ ดาวเงินตระกูล รอง ผบก.ปฏิบัติการพิเศษ, พ.ต.อ.วีพงษ์ กงแก้ว ผกก.๑ บก.ปฏิบัติการพิเศษ, พ.ต.ท.ณัฐวุฒิ รุ่งเรือง, พ.ต.ท.ณัฐพงศ์ ปัญญา, พ.ต.ท.เอกพงษ์ ผูกพัน รอง ผกก.กก.๑ บก.ปฏิบัติการพิเศษ
สั่งการให้ พ.ต.ต.ณัฐพร ช่วยนุกูล สว.กก.๑ บก.ปฏิบัติการพิเศษ, ด.ต.วิฑูรย์ เกื้อสกุล, ส.ต.อ.วชิระ เชื้อกระโซ่, ส.ต.อ.กิตติศักดิ์ สารีคำ, ส.ต.ต.จตุพล มาสี, ส.ต.ต.สุวัฒน์ จันทร์ดี, ส.ต.ต.ปิยะภัฏชรพงษ์ ใจมณี, ส.ต.ต.พิชัย สมปัญญา, ส.ต.ต.เทพพล พลเยี่ยม,ส.ต.ต.กฤษฎากรณ์ แก้วศรีพจน์ ผบ.หมู่.กก.๑ บก.ปฏิบัติการพิเศษ
ผู้ต้องหา นายสมาน อุตสาห์ อายุ 49 ปี
ผู้ต้องหาตามหมายจับ : ศาลจังหวัดมุกดาหาร ที่ จ.118/2563 ลงวันที่ 29 กันยายน พ.ศ. 2563
ความผิดฐาน : “ร่วมกันฉ้อโกง”
คดีนี้สืบเนื่องจาก เมื่อวันที่ ๒๗ พฤศจิกายน ๒๕๖๒ เวลาประมาณ ๒๐.๐๐ น. ผู้เสียหาย ได้รับการติดต่อจากนายเดโช นิยมแก้ว (ผู้ต้องหาที่ ๑) ทางโทรศัพท์ ติดต่อซื้อน้ำมันปาล์มของผู้เสียหาย จำนวน ๒๗ ตัน ๔๔๐ กิโลกรัม รวมเป็นเงินทั้งสิน ๕๔๘,๘๐๐ บาท โดยได้นัดหมายให้มารับน้ำมันปาล์มอยู่ภายในร้านของผู้เสียหาย และนายเดโชฯ (ผู้ต้องหาที่ ๑) จะชำระค่าน้ำมันปาล์มจำนวนดังกล่าวภายใน ๑๕ วัน
ต่อมาวันที่ ๖ ธันวาคม ๒๕๖๒ เวลาประมาณ ๑๐.๐๐ น. ได้มีนายสมาน อุตสาห์ (ผู้ต้องหาที่ ๒) และชายไม่ทราบชื่ออีกหนึ่งคนลูกจ้างของนายเดโชฯ(ผู้ต้องหาที่ ๑) ขับรถบรรทุกพ่วงสิบแปดล้อ มาขนเอาน้ำมันปาล์มจำนวนดังกล่าวไป จากนั้นนายเดโชฯ(ผู้ต้องหาที่ ๑) ได้ผิดนัดชำระค่าสินค้าหลายครั้ง ผู้เสียหายเชื่อว่าถูกนายเดโชฯ(ผู้ต้องหาที่ ๑) หลอกลวงโดยแสดงข้อความอันเป็นเท็จว่าจะซื้อน้ำมันปาล์ม เป็นเหตุให้ผู้เสียหายได้รับความเสียหาย จึงได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีกับผู้ต้องหาพร้อมพวกต่อไป
สอบสวนนางสาวปุญญาพร ภูร์ชัยแสง พยานซึ่งถูกนายเดโช นิยมแก้ว หลอกลวงทำสัญญาซื้อขายน้ำมันปาล์มจนเป็นเหตุให้ได้รับความหายเช่นเดียวกัน จำนวน ๒๙,๙๙๐ กิโลกรัม ราคาเป็นเงิน ๔๔๙,๘๕๐ บาท เมื่อวันที่ ๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๖๒ โดยมี นายสมาน อุตสาห์ ขับรถยนต์บรรทุกพ่วงหัวลาก มารับเอาน้ำมันปาล์มไป และพยานยังไม่ได้รับค่าน้ำมันปาล์มแต่อย่างใด พยานได้ติดต่อทวงถามไปที่นายเดโชฯแล้วหลายครั้ง แต่ก็ไม่มีการชดใช้ตลอดมา พยานเชื่อว่านายเดโชฯ มีเจตนาหลอกลวงเอาทรัพย์สินของพยานไปตั้งแต่ต้น จึงได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีกับผู้ต้องหาต่อไปที่สถานีตำรวจภูธรเซกา จังหวัดบึงกาฬ
จนกระทั่งวันที่ 29 ธันวาคม ๒๕๖๓ เวลาประมาณ 14.50 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจคอมมานโด สืบทราบว่า ผู้ต้องหาได้หลบหนีมาอยู่ที่หน้าป้อมยาม บริษัทสยามคราฟท์อุตสาหกรรม จำกัด เลขที่ 99 ม.6 ถ.แสงชูโต ต.วังศาลา อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี ออกไปตรวจสอบและพบ ก่อนเข้าจับกุมพร้อมแสดงหมายจับ ในความผิดฐาน “ร่วมกันฉ้อโกง” ให้ดู ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินการต่อไป
“สยบทุกข์ภัย รับใช้ปวงประชา”